วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ไอ้เข้ที่เขาใหญ่


บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณี มีการส่งฟอร์เวิดเมล์ เผยแพร่ภาพนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเล่นน้ำที่ นำตกเหวสุวัต เส้นทางเดินป่าผากล้วยไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถถ่ายภาพจระเข้ขนาดใหญ่มีความยาวเกือบ 2 เมตร นอนนิ่งอยู่บนลานหินในบริเวณใกล้ๆ กับจุดท่องเที่ยวดังกล่าวว่า
ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับแจ้งว่ามีคนเคยพบจระเข้มาแล้ว แต่ขณะนั้นตัวยังไม่โตมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้ออกติดตามดูพฤติกรรมมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามจากที่ตนดูจากภาพถ่ายที่ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์ พบว่าจระเข้มีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นมากและอาจจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ เบื้องต้นจึงได้สั่งการให้จัดทำป้ายเตือนอันตรายที่อาจจะเกิดจากจระเข้ไปติดตามจุดต่างๆ ในบริเวณที่พบจระเข้ ให้มากขึ้น รวมทั้งสั่งการด่วนให้ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อตามล่าจระเข้ ที่เชื่อว่ามีอยู่ 2 ตัว ให้ได้โดยเร็ว “หากได้ตัวมาแล้วเราก็คงจะนำไปตรวจดีเอ็นเอ ดูว่า จระเข้ที่พบนี้เป็นจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย (Siamese Crocodile) ตามธรรมชาติหรือไม่ ถ้าหากเป็นพันธุ์แท้ ก็แสดงว่ามันจะต้องมีพ่อแม่ ซึ่งคงต้องคุยกับนักวิจัยว่า จะทำอย่างไร ซึ่งอาจจะต้องเคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่มีจระเข้น้ำจืดอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้มี 2 ที่ คือที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา และ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ส่วนกรณีที่สองเมื่อตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วพบว่าไม่ใช่จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย ก็จะต้องนำออกมา ซึ่งถ้าไม่ใช่พันธุ์น้ำจืดธรรมชาติ ก็เชื่อได้ว่าจะต้องมีคนนำไปปล่อยเอาไว้ อย่างไรก็ตามก็ขอเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวในบริเวณนี้ ขอให้ระมัดระวัง อย่าเข้าไปใกล้หรือไปทำร้าย ไปแหย่ มันเพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามอยู่ ตอนนี้ผมสั่งให้ทีมติดตามออกเดินหาตั้งแต่ผากล้วยไม้ตลอดลำน้ำไปจนถึงลำตะคอง”
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นจระเข้ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนใหญ่จะพบว่ามันขึ้นมานอนผึ่งแดดอยู่ที่บริเวณลำน้ำตะคอง และลานกางเตนท์ผากล้วยไม้อยู่เป็นประจำ ในช่วงที่แดดอ่อนๆ อากาศดีๆ ขณะนี้ทางอุทยานเขาใหญ่ ได้ทำป้ายติดประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังจระเข้คู่นี้ไว้ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่พบจระเข้บ่อยๆ โดยติดไว้ห่างจากฝั่งไม่เกิน 100 เมตร รวมทั้งแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงไปเล่นน้ำในจุดดังกล่าวด้วย
“ขอความร่วมมือหากพบจระเข้ทั้งสองตัว ขออย่าได้ทำร้ายมันเพราะนอกจากที่จะเป็นสัตว์ดุร้ายที่อาจจะได้รับอันตรายแล้ว ถ้าหาก จระเข้คู่นี้เป็นสายพันธุ์ไทยแท้ก็จะนับว่าเป็นสัตว์ที่หายากในปัจจุบัน ที่ผ่านมาพบว่ามีจระเข้พันธุ์ไทยแท้อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอุทยานแห่งชาติปางสีดาเท่านั้น”

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009[H1N1]



ไข้หวัดใหญ่ 2009 หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดทั่วโลก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, อ.ส.ม.ท. ข่าวคราวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ H1N1 ปรากฎให้เห็นมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 แล้ว แต่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกกังวลว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 อาจจะสร้างความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก ทั้งนี้ประเทศแถบเอเชียใกล้ๆ บ้านเรา ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทย ดังนั้นโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป วันนี้กระปุกจึงนำเรื่องราวของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาบอกต่อเพื่อเป็นความรู้ค่ะ
สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุด องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเตือนภัยการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระดับ 5 หมายถึง มีการติดต่อของเชื้อไวรัสจากคนสู่คน และแพร่ระบาดไปอย่างน้อยสองประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 12,954 รายแล้ว ใน 46 ประเทศ และมีจำนวนผู้เสียชีวิต 92 ราย ขณะที่ในประเทศเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 85 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 4,721 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2552)
รู้จักโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีชื่อเรียกในประเทศต่างๆ หลายชื่อ คือ ไข้หวัดเม็กซิโก, ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอชวัน เอ็นวัน 2009, ไข้หวัดใหญ่จากสุกร (Swine Influenza) เป็นต้น เป็นไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ตามปกติมีการระบาดในหมูเท่านั้น สามารถพบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง H1N1, H1N2 และ H3N2 แต่บางครั้งหมูอาจมีเชื้อไข้หวัดอยู่ในตัวมากกว่า 1 ชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดการผสมกันของยีนได้ ทำให้เกิดเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่สามารถข้ามสายพันธุ์มาติดต่อยังมนุษย์ได้ เริ่มต้นจากการสัมผัสกับหมูที่เป็นโรค สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ก่อนจะแพร่ระบาดไปหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั้น เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน และไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากเป็นการผสมกันของสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์, ไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และไข้หวัดหมูที่พบในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากหวั่นวิตกว่า เชื้อ H1N1 อาจจะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้น

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทความเบื้องต้น

ผมดีใจมั่กมาก.........ที่สร้างblogได้เย่.............